รู้หรือไม่? ผู้หญิงมีความเสี่ยงที่จะเกิด “โรคกระดูกพรุน” มากกว่าผู้ชาย!

ผู้หญิงมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนมากกว่าผู้ชาย สาเหตุหลักมาจากการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนเมื่อเข้าสู่วัยทอง และยังมีปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งรวบรวมไว้ในบทความนี้
สารบัญ

กระดูกไม่ได้มีพัฒนาการแค่ในวัยเด็กหรือวัยรุ่นเท่านั้น แต่ยังมีการเปลี่ยนแปลงตลอดช่วงชีวิตของเรา เมื่อเข้าสู่วัยทอง ความแข็งแรงของกระดูกมักจะลดลง และมักจะมีเรื่องของ “โรคกระดูกพรุน” เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิง ที่จะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้มากกว่าผู้ชาย

สาเหตุ

  • การลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
  • กระดูกเริ่มสูญเสียความหนาแน่นเมื่อแก่ขึ้น โดยเฉพาะหลังวัย 50
  • การทานแคลเซียมไม่เพียงพอ ส่งผลต่อการเสริมสร้างกระดูก
  • ขาดวิตามิน D ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมแคลเซียมได้
  • ออกกำลังกายน้อยเกินไป
  • การทานยาบางประเภท เช่น คอร์ติโคสเตียรอยด์
  • การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
  • ปัจจัยทางพันธุกรรม ถ้ามีคนในครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน ความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้ก็จะสูงขึ้น
  • ปัจจัยอื่น ๆ เช่น โรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูก หรือการใช้ยาที่ทำให้สูญเสียมวลกระดูก

อาการ

  • กระดูกเปราะและหักง่าย
  • ปวดเมื่อย โดยเฉพาะแขน ขา หรือหลัง
  • ส่วนสูงลดลง
  • หลังค่อม เนื่องจากกระดูกสันหลังโค้ง
  • สังเกตเห็นรูปทรงของกระดูกสันหลังชัดเจนขึ้น

การวินิจฉัย

  • การวัดความหนาแน่นของกระดูก
  • การถ่ายภาพเอ็กซ์เรย์
  • การตรวจร่างกาย อาจจะตรวจสอบอาการปวดของผู้ป่วย
  • การสอบถามเกี่ยวกับประวัติของผู้ป่วย ว่าในอดีตเคยมีการหักของกระดูกหรือไม่

การรักษา

ยาที่ช่วยลดการสูญเสียมวลกระดูก

Bisphosphonates เช่น alendronate (Fosamax), risedronate (Actonel), ibandronate (Boniva), และ zoledronic acid (Reclast)
Denosumab (Prolia) ฉีดผ่านทางหลอดเลือดและทำงานโดยยับยั้งกลไกที่ทำให้กระดูกสูญเสียความหนาแน่น

ยาที่เสริมสร้างกระดูก

Teriparatide (Forteo) และ Abaloparatide (Tymlos) เป็นยาที่มาจากฮอร์โมนพาราไทรอยด์ ซึ่งส่งเสริมการสร้างกระดูก

ฮอร์โมนเสริม

Raloxifene (Evista) เป็นยาที่ส่งผลดีต่อกระดูกและลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม

การออกกำลังกาย

แบบ weight-bearing สามารถช่วยเสริมสร้างกระดูกและเพิ่มความแข็งแรง

การป้องกัน

  • ผู้หญิงควรทานแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอทุกวัน ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญสำหรับการสร้างและซ่อมแซมกระดูก
  • การทานวิตามิน D ที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม มีอยู่ในแสงแดด อาหาร และเสริมอาหาร
  • การออกกำลังกาย เช่น เดิน วิ่ง หรือเต้นแอโรบิก
  • ลดการบริโภคแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
  • การตรวจสุขภาพกระดูกเป็นประจำ สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 65 ปี หรือคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก
  • การรักษาตามอาการและใช้ยาป้องกัน สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรค
  • เพิ่มความปลอดภัยในบ้าน เช่น ติดตั้งราวบันได นำเอาสิ่งกีดขวางออก
  • ป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ สามารถช่วยลดความเสี่ยงการเสื่อมของกระดูก

สรุป

โรคกระดูกพรุน เป็นสภาวะที่กระดูกสูญเสียความแข็งแรง เปราะบางและเสี่ยงต่อการหักง่าย การปฏิบัติตามแนวทางการรักษาที่แพทย์แนะนำ มีไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิตที่ดี รับประทานอาหารมีประโยชน์ การออกกำลังกาย ตรวจสุขภาพเป็นประจำ รวมถึงบำรุงสุขภาพกระดูกอย่างต่อเนื่อง จะช่วยป้องกันการเสื่อมและกระดูกหักที่มีสาเหตุจากโรคกระดูกพรุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิง

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest

Story you might be interested in

ไซรัปมะพร้าว Synova ตัวช่วยรังสรรค์เมนู ใช้แทนน้ำตาลได้

น้ำเชื่อมสำเร็จรูปที่ผลิตจากน้ำหวานของดอกมะพร้าวธรรมชาติ ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับสากล ให้รสชาติหวานนุ่ม หอมละมุนตามธรรมชาติของมะพร้าว เหมาะสำหรับใช้เติมความหวานในเครื่องดื่มและขนมต่างๆ โดยไม่ต้องพึ่งน้ำตาลทรายหรือไซรัปแต่งกลิ่นทั่วไป

Read More »

เป็นตะคริวบ่อย สัญญาณเตือนสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

อาการ “ตะคริว” หรือการเกร็งของกล้ามเนื้ออย่างเฉียบพลัน แม้จะเป็นเรื่องที่ดูเหมือนไม่อันตราย แต่หากคุณเริ่ม เป็นตะคริวบ่อย หรือเกิดซ้ำถี่ขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ นั่นอาจเป็น สัญญาณเตือนจากร่างกาย

Read More »

Radiesse อันตรายไหม? รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนฉีด!

หนึ่งในสารเติมเต็มที่กำลังได้รับความนิยมในศัลยกรรมเสริมความงาม เพราะช่วยเติมเต็มร่องลึก ยกกระชับผิว และกระตุ้นคอลลาเจนในผิว

Read More »

Morpheus8 คืออะไร ทำไมถึงเป็นเทรนด์ใหม่ของการฟื้นฟูผิว?

Morpheus 8 เทคโนโลยียกกระชับผิว ฟื้นฟูริ้วรอย ผิวย่นหย่อนคล้อย แก้ปัญหาต่างๆ ของผิว เช่น ริ้วรอย ร่องลึก จุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด

Read More »