สุนัขสายพันธุ์ ซามอยด์ (Samoyed) มีนิสัยร่าเริง สดใส และเป็นมิตร ที่มาพร้อมกับความเฉลียวฉลาด มีถิ่นกำเนิดในไซบีเรีย ถูกเลี้ยงเพื่อต้อนฝูงสัตว์ ต้อนกวางเรนเดียร์ และลากเลื่อน ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 สมัย Queen Alexandra ซามอยด์ได้ถูกนำเข้าไปยังประเทศอังกฤษครั้งแรก เป็นของขวัญจากพระเจ้าซาร์แห่งรัสเซีย ทำให้กลายเป็นที่ชื่นชอบในหมู่ราชวงศ์และชนชั้นสูง ด้วยสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ที่เติบโตมา ทำให้สุนัขสายพันธุ์นี้มีขนหนาปุกปุย และไม่สามารถทนต่ออากาศร้อนได้
ลักษณะทั่วไปของซามอยด์
มีขนาดกลาง-ใหญ่ ลำตัวสมส่วน ตัวผู้จะใหญ่กว่าตัวเมียเล็กน้อย ลักษณะขน มีทั้งสีขาวบริสุทธิ์ สีขาวผสมสีบิสกิต สีครีม หรือสีบิสกิต ขนหนา 2 ชั้น ขนชั้นนอกยาวและตรง มีการผลัดขนปีละ 2 ครั้ง ริมฝีปากดำ หยักนิด ๆ ที่มุมปาก เท้ามีลักษณะแบนราบและมีขนหนาแน่น ทำให้สามารถเดินบนหิมะได้สะดวก ใบหูทรงสามเหลี่ยม ตั้งตรง (โดยธรรมชาติ) หางยาวฟูฟ่องขดไปบนหลัง น้ำหนัก 22.5 – 27 กก. ส่วนสูง 50 – 60 ซม. และมีอายุขัยอยู่ที่ประมาณ 12-15 ปี
ลักษณะนิสัยของซามอยด์
มีนิสัยน่ารัก เป็นตัวของตัวเอง ค่อนข้างซุกซน ซื่อสัตย์ เชื่อฟัง และเรียนรู้ได้เร็ว ชอบอยู่กับครอบครัว ไม่ชอบการถูกทิ้งให้อยู่บ้านตามลำพัง เข้ากับเด็กและสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นได้ดี รักอิสระ ควรหากิจกรรมต่าง ๆ ให้ซามอยด์ทำเพื่อลดพฤติกรรมที่ไม่ดี
การดูแลสุนัขสายพันธุ์ซามอยด์
หมั่นตัดเล็บให้ทุก ๆ 3-4 สัปดาห์ และเนื่องจากขนที่มีลักษณะหนาฟู ทำให้มักจะมีสิ่งสกปรก และเศษต่าง ๆ เกาะติด จึงควรแปรงขนอย่างสม่ำเสมอ แนะนำให้อาบน้ำเดือนละครั้ง ที่สำคัญจะต้องล้างตัวให้สะอาดไม่มีคราบแชมพูเหลืออยู่ และเป่าขนให้แห้งสนิท ไม่ควรอาบบ่อยเกินไป เพราะจะล้างน้ำมันตามธรรมชาติที่ขนและผิวหนังออก ทำให้ผิวแห้งและอาจก่อให้เกิดโรคผิวหนังตามมา
ข้อสรุปสำคัญ
ซามอยด์ มีโรคที่ต้องระวัง โดยเฉพาะปัจจัยด้านพันธุกรรมที่อาจเสี่ยงให้เกิดปัญหาสุขภาพได้หลายอย่าง เช่น โรคไต (Samoyed Hereditary Glomerulopathy), โรคจอประสาทตาเสื่อม (Progressive Retinal Atrophy: RTA), โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip dysplasia), โรคต้อหิน (Glaucoma) เป็นต้น ควรพาซามอยด์เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี และหากพบอาการผิดปกติควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจและรักษา
