นาทีนี้เรียกว่าไม่มีใครไม่รู้จัก เมื่อพูดชื่อ “Rolls-Royce” หลายคนคงจะนึกถึงภาพของความหรูหรา คลาสสิก และประณีต สำหรับ Rolls-Royce Ghost ก็เช่นกัน ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นต้นแบบของการผสมผสานระหว่างประวัติอันยาวนานของแบรนด์นี้กับเทคโนโลยีการออกแบบที่ทันสมัย และยังเป็นสัญลักษณ์ความยิ่งใหญ่ของการทำรถยนต์อย่างแท้จริง รวมถึงความพิเศษที่ซ่อนอยู่ในรายละเอียดทุก ๆ ด้าน ซึ่งยากจะถูกเทียบเคียง
การออกแบบ
ลักษณะภายนอกมาพร้อมกับการออกแบบที่เรียบหรู บริเวณหน้ารถแสดงความเป็น Rolls-Royce ด้วยสัญลักษณ์ “Spirit of Ecstasy”
รูปทรงของรถถูกออกแบบให้มีความสปอร์ต แต่ยังคงความคลาสสิกของแบรนด์ ด้วยลายเส้นที่ลื่นไหล และวัสดุที่คัดเลือกมาอย่างดี
อีกหนึ่งจุดเด่นคือความละเอียดของแต่ละส่วน ไม่ว่าจะเป็นหนังคุณภาพสูง หรือวัสดุประดับตกแต่งอื่น ๆ ที่เพิ่มความหรูหรา
เครื่องยนต์
มาพร้อมกับเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง รองรับการขับขี่ทั้งในเมืองและการขับขี่ระยะไกล ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.75 ลิตร ให้กำลังสูงสุดกว่า 560 แรงม้า
เครื่องยนต์ของ Rolls-Royce Ghost ถูกออกแบบเพื่อให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวล เงียบสงบ และไร้การสั่นสะเทือน ผสานกับระบบซัพพอร์ตที่สูง โครงสร้างของรถใช้อะลูมิเนียมที่มีค่าความต้านทานคลื่นเสียงสูง สามารถกันเสียงได้ดี เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เงียบสงบในการขับขี่ไม่ว่าจะเร่งหรือวิ่งที่ความเร็วสูงก็ตาม
ความปลอดภัย
โครงสร้างแกนกลางผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง มีระบบเบรกแบบอัจฉริยะ ถูกออกแบบมาเพื่อให้การเบรกเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ รวมถึงระบบเตือนการชนและระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน มาพร้อมกับเทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้วยเรดาร์ ที่สามารถตรวจสอบและเตือนผู้ขับขี่ในกรณีที่มีวัตถุเคลื่อนที่เข้ามาในบริเวณใกล้เคียง
ระบบกันการชนทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังของรถ ช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการเปลี่ยนเลนหรือการถอย มีระบบเตือนการออกนอกเลน และแอร์แบ็กหลายจุด เพื่อการป้องกันผู้โดยสารและผู้ขับขี่จากการชนที่หนัก
ความสะดวกสบาย
ที่นั่งมาพร้อมกับระบบปรับเปลี่ยนหลายโหมด เช่น การนวด การปรับเพื่อให้เหมาะสมกับรูปร่างและความต้องการของผู้โดยสาร ระบบเสียงคุณภาพสูง ให้เสียงที่คมชัด เทคโนโลยีการควบคุมอุณหภูมิที่ทันสมัยช่วยในการปรับความอุ่นหรือความเย็นอย่างรวดเร็ว การแสดงผลทัชสกรีน ระบบการนำทางขั้นสูง และการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน
กล่าวโดยสรุป
Rolls-Royce Ghost ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถยนต์ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา เทคโนโลยีที่ทันสมัย ความสมบูรณ์แบบ และสุดยอดของความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง ในปี 2023 – 2024 มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย สนนราคาอยู่ที่ 29.9 ล้านบาท ถึง 35.9 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงประสิทธิภาพในการขับขี่ จากที่กล่าวมาทำให้แบรนด์นี้กลายเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในโลก